ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์มาแล้วที่ผู้ชายต้องดูแลครอบครัว ออกล่าสัตว์ หรือตัดฟืนมาจุนเจือครอบครัว ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบเขาและเขาต้องเป็นผู้นำ
นี่ก็คือความแตกต่างข้อหนึ่งระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย
พวกเขารู้สึกเสมอว่าครอบครัวต้องพึงพาเขา ผู้ชายจึงบอกตัวเองว่าต้องเข้มแข็ง ต้องกล้าแกร่ง ออกสัตว์หาอาหารให้ครอบครัวด้วยความสุขุมมุ่งมั่น มีความระแวดระวัง และมีความกล้าหาญ
ทั้งๆ ที่ใจเบื้องลึกของความรู้สึกนั้นเริ่มหวาดหวั่น ผู้ชายไม่ได้หวั่นกลัวอันตราย แต่เขาหวาดหวั่นว่าเขาจะดูแลครอบครัวได้สมบูรณ์แค่ไหน ในเมื่อเขาคือผู้นำ คือที่พึ่งของทุกคน
และเมื่อผ่านกาลเวลามาถึงยุคปัจจุบัน ผู้ชายไม่ใช่พรานผู้ทระนงอย่างเช่นต้นเผ่าพันธุ์ของเขาอีกแล้ว
เขาไม่ต้องวิตกว่าวันนี้จะหาอาหารให้ครอบครัวได้หรือไม่ บ้านที่เขาสร้างขึ้นจะแข็งแรงพอในฤดูฝนหรือไม่
ผู้ชายจึงกลายเป็นพรานหลงยุค ผู้ซึ่งนำเอาความเป็นพรานทระนงเหล่านั้นมาใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งคุณคงได้เคยพบเจอบ้าง
แน่นอนในลักษณะดังเช่นต่อไปนี้
- เขามักทำตัวเป็นผู้บงการเสมอ คอยออกคำสั่ง และเป็นผู้ตัดสินใจ
- เขาคล้ายหวาดระแวงต่อทุกสิ่ง เหมือนคอยป้องกันตัวตลอดเวลา จนบางครั้งเหมือนเขาไม่สนิทใจในการคบหาคุณ
- เขาแสดงว่าเข้มแข็งตลอดเวลา จนเมื่อถึงเวลายิ่งแย่ก็ไม่กล้าจะเผยความอ่อนแอมาให้คุณได้ปลอบโยน
- เขาจะกระโจนลงลุยงานหนักทันทีเมื่อรู้ว่าได้ผลประโยชน์มาตอบแทนแล้วก็บอกว่าทำเพื่อคุณ ทั้งที่คุณต้องการเวลามากกว่าเงินทอง
สำนึกเหล่านี้แหละที่ถ่ายทอดจากความเป็นผู้ชายมาตั้งแต่ยุคสมัยพระเจ้าสร้างผู้ชายขึ้นมาในโลก ถ้าคุณสัมผัสถึงสำนึกเหล่านี้ของผู้ชายได้ คุณก็จะเข้าใจและรู้วิธีที่จะช่วยปรับเปลี่ยน แก้ไข หรือปรับตัวเองให้สร้างสัมพันธภาพกับเขาได้ โดยไม่ต้องมัวงุนงงหรือเบื่อหน่ายผู้ชายเมื่อต้องพบเจอพฤติกรรมเช่นนั้นของเขา
เมื่อคุณพอจะเข้าใจแล้วว่าการกระทำบางลักษณะของเขานั้นไม่ได้มาจากเหตุผลที่ว่าเขามีนิสัยน่าเซ็งเช่นนั้น แต่เกิดมาจากการถูกปลูกฝังมานับนานหลายยุคสมัยแล้ว คุณก็จะสามารถทำความเข้าใจไปถึงอีกหลายๆ พฤติกรรมของเขา ซึ่งผู้ชายทุกคนจะคิดและรู้สึกเช่นนั้นเหมือนกันอย่างน่าอัศจรรย์ที่สุด ราวกับว่าพวกเขาเป็นมนุษย์ต่างดาวที่เกิดมาจากดาวดวงเดียวกันทุกคนเลยก็ว่าได้
มีตัวอย่างที่จะให้คุณลองวิเคราะห์ดูอีกในเรื่องการเลือกที่นั่งของเขา คุณเคยสังเกตไหมว่าผู้ชายมักจะเลือกว่าตัวเขาจะต้องนั่งที่ตรงไหนมุมไหนของร้าน ถ้ายังไม่เคยคุณก็ควรทดลองสังเกตดู แล้วคุณจะพบว่าพวกผู้ชายมักจะชอบนั่งในมุมที่เขาสามารถมองเห็นได้รอบบริเวณร้านนั้น หรือสามารถมองเห็นประตูร้าน เขาจะไม่รู้สึกผ่อนคลายได้เต็มที่นักถ้านั่งในมุมอับ นั่งยังเก้าอี้ที่ต้องหันหลังให้ทั้งร้านหรือนั่งหันหน้าเข้าข้างฝา ที่เป็นเช่นนั้นไม่ใช่ว่าขาไปมีเรื่องกับใครไว้แล้วกลัวว่าโจทก์จะเข้ามาทำร้ายเขาจากด้านหลังโดยไม่ทันได้ระวังตัวหรอกแต่เหตุผลนั้นทั้งน่าขันและน่าพิศวงอยู่มิใช่น้อยเลย ที่เขานั่งหันหน้าออกเพื่อให้เห็นทั้งร้านเช่นนั้นเป็นเพราะเขารู้สึกปลอดภัย
ความปลอดภัยนั้นก็หมายความถึงสำนึกของนายพราน ซึ่งย่อมต้องมีสัญชาตญาณในการหวาดระแวงต่อภัยอันตรายที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ถ้าเขาจะต้องนั่งหันหลัง เอาหน้าหันเข้าหาข้างฝาเช่นนั้นเขาจะรู้สึกไม่ได้เตรียมพร้อมคลายกับอึดอัด ไม่สามารถไว้ใจได้ว่าช่วงเวลานั้นปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ สึกเช่นนี้ผู้ชายอาจจะไม่รู้ตัวและไม่ยอมรับด้วยว่ามันเกิดจากความรู้สึกแบบนี้เพราะเหตุใด
สิ่งที่อาจสนใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น