วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

พูดจาภาษาผู้ชาย ความหมายที่ต้องแปล

ความหมายที่ต้องแปล เมื่อคุณตัดสินใจแล้วว่าจะทำความรู้จักความเป็นเพศชายของเขาคนนั้น คุณต้องใจจะศึกษาเพื่อให้รู้ซึ้งถึงโลกของผู้ชาย เพื่อจะได้เข้าใจเขา เพื่อจะชนะใจเขา ไม่ว่าจะเป็นเขาคนนั้นหรือผู้ชายทั่วไปในวิถีชีวิตของคุณ

ในเมื่อการพูดคุยกันไม่รู้เรื่องเหมือนคุยกันคนละภาษา ความสัมพันธ์ก็คงดำเนินไปได้ไม่สวยงามแน่

ระหว่างที่คุณคบหากับผู้ชายคนหนึ่ง คุณคงเคยเจอเรื่องที่ก่อกวนใจคุณอย่างมากเมื่อคุณพูดคุยกับเขา แต่เขาตอบมาในวิธีที่คุณแทบจะคลั่ง ยกตัวอย่างเช่น

เมื่อคุณแสดงอารมณ์โกรธ ผู้ชายจะไม่เผชิญหน้าด้วย

คุณเคยสังเกตไหมว่าขณะที่คุณกำลังระเบิดอารมณ์ใส่เขา ไม่ว่าในเรื่องอะไรก็แล้วแต่ อาจเป็นเรื่องเล็กๆ ที่คุณรู้สึกอยู่ในใจแล้วก็สะสมมาจนต้องกราดเกรี้ยวชวนเขาทะเลาะ นาทีนั้นคุณกำลังร้องไห้หรือฉุนเฉียวเต็มที่

แต่เขากลับบอกให้คุณยุติอารมณ์ที่กำลังเดือดของคุณ

หรือไม่ก็ผละหนีคุณไปเสียดื้อๆ อย่างนั้นแหละ

ในที่สุดคุณก็พายแพ้ในครั้งนั้น และความไม่เข้าใจกันก็ยังติดค้างอยู่ในใจ ต่อมาผู้ชายก็มาง้อคุณโดยไม่พูดรือฟื้นถึงปัญหานั้น แล้วคุณก็จะเก็บความไม่พอใจไว้รอวันระเบิดต่อไป

นี่แหละคือม่านดำผืนใหญ่ที่กั้นขวางคุณไว้

โดยผู้ชายเป็นผู้รูดม่านปิด แล้วปล่อยให้คุณว้าวุ้นต่อไป

ที่จริงแล้วไม่ใช่เขาไม่รักคุณ แต่เป็นเพราะเขา “กลัว” คุณและก็ “กลัว” ตัวเอง

ผู้ชายกลัวเมื่อถูกผู้หญิงใช้อารมณ์คุกคาม และผู้ชายกลัวที่จะต้องต่อสู้กับผู้หญิงด้วยอารมณ์ เพราะเขาไม่ถนัดในการแสดงออกทางอารมณ์

เมื่อคุณเข้าใจปัญหานี้ของเขาแล้วคุณจะเลิกข้องใจในตัวเขา รวมทั้งเลิกสงสัยตัวเองว่าเป็นคนเจ้าอารมณ์หรืออ่อนไหวไร้เหตุผลได้เสียที

เมื่อผู้ชายรู้สึกว่าถูกโจมตี เขาจะพยายามดึงคุณให้ออกมาจากอารมณ์ที่กำลังลุกเป็นไฟนั้นทันที เพราะเขารู้ว่าเขาไม่สามารถรับมือได้เขาคิดว่าเขาสามารถสู้กับคุณด้วยเหตุผลได้มากกว่าสู้ด้วยอารมณ์อันรุนแรง

ขณะที่คุณท้าทายเขา ยั่วยุให้เขาเกิดอารมณ์ทะเลาะด้วย เขาจะไม่ยอมแลกเปลี่ยนอารมณ์กับคุณ แต่เขาจะดึงม่านมากั้นทันที โดยการโจมตีย้อนกลับ ให้คุณกลับรู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด

นั่นคือการป้องกันตัวของเขา เพราะเขาจะไม่ยอมเป็นฝ่ายแพ้ซึ่งจะทำให้เขารู้สึกสูญเสียอำนาจ เขาจะแกล้งเบี่ยงการโต้คารมกับคุณ โดยพูดในทำนองว่า

“นี่คุณคิดมากไปเองแล้วนะเนี่ย เลิกเอาแต่ใจเถอะน่า”
“คุณจะเอายังไงอีก ผมทำดีที่สุดแล้วนะ”

ผู้ชายจะเลี่ยงไปในทำนองนี้แหละ ถ้าคุณไม่อยากรู้สึกมืดมิดอยู่หลังม่านนั้นอีกต่อไป คุณก็ต้องแก้เกมนี้ด้วยการหยุดใช้อารมณ์กราดเกรี้ยวคุกคามเขา

แต่บอกเขาอย่างคนมีเหตุผลด้วยการเชื่อพลังของตัวคุณเองว่า คุณรู้นะว่าทำไมเขาเลี่ยงที่จะไม่พูดถึงปัญหานี้ และพยายามชักจูงให้เขาช่วยกันแก้ไขปัญหา อย่าปล่อยให้กลายเป็นเรื่องที่ก่อตัวเงียบๆ ในใจทั้งสองฝ่ายอีกต่อไป

สิ่งที่อาจสนใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สนใจลงโฆษณา